-
แค่ให้พื้นที่ ก็รู้สึก “โชคดี” ที่ลูกดูแลตัวเองได้
-ลูกวัยรุ่นของ “คุณพ่อโจ้” เจ้าของเพจ HomeSchool หนึ่งในผู้ปกครองที่สนับสนุนและช่วยสร้างประโยชน์ดีๆ ร่วมกับ Know Are สำหรับเด็กสองคนที่อายุจะ 16 ปีคนหนึ่งกับ 13 ปีอีกคนหนึ่ง ในความเป็นพ่อแม่ก็ค่อนข้างสบายใจที่ลูกสามารถดูแลตัวเองได้ จัดการชีวิตได้พอสมควรทั้งเรื่องการเรียนและการใช้ชีวิต ซึ่งอันที่จริงก็สบายพ่อแม่มาก เพราะไม่ต้องคอยไปจัดการลูก ยิ่งลูกโตขึ้น พ่อแม่ยิ่งสบาย ยิ่งง่าย…
00 -
“อยากให้ลูกมั่นใจในตัวเอง” แค่พาเขาออกจากกรอบเดิมๆ ที่เคยอยู่และทำอะไรใหม่ๆ ที่ไม่เคยทำ
-การที่ลูกของคุณพ่อคุณแม่เป็นคนขี้อาย ประหม่าไม่กล้าคุยกับคนใหม่ๆ ส่วนหนึ่งเป็นเรื่องของบุคลิกที่เป็นธรรมชาติของเขา ที่ตามหลักจิตวิทยาบอกไว้ว่า คนลักษณะแบบ Introvert อาจจะชอบใช้เวลาอยู่กับตัวเองเพื่อเข้าใจตัวเอง คิดไตร่ตรองเพื่อเรียนรู้และเข้าใจโลก ในขณะเดียวกันก็เข้าใจเหมือนกันว่าบางครั้งชีวิตก็มีความจำเป็นต้องไปพบปะผู้คน ต้องนำเสนองาน ต้องสื่อสารกับคนหลากหลาย บางทีก็รวมไปถึงการกล้าที่จะเปิดรับความท้าทายของชีวิต ที่ถ้าผ่านไปได้ ก็พาให้ได้ไปพบกับพื้นที่ใหม่ๆที่ยังไม่เคยสำรวจ “ความมั่นใจในตัวเอง” จริงๆแล้วมีหลายองค์ประกอบเลยครับ วันนี้ผมจะหยิบเรื่องหนึ่งมาแบ่งปัน คือ “การภูมิใจและเห็นคุณค่าในตัวเอง” “Self-Esteem” ผมขอแบ่งปันกับคุณพ่อคุณแม่ไว้…
-
แค่ให้ลูก “ทบทวนตัวเองทุกวัน” ก็จะช่วยให้ค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้น
-เราได้โอกาสพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ เกี่ยวกับประเด็นที่ว่า “อยากเข้าใจว่าลูกคิด หรือต้องการอะไร” จึงนึกถึงกระบวนการ Reflection หรือการสะท้อนตัวเอง ที่ Know are เราใช้ในการสอนประสบการณ์ให้น้องๆ สะท้อนคิด (Reflection) คืออะไร? “การสะท้อนคิด” คือ การหันกลับไปมอง แล้วไตร่ตรองค่อยๆดูว่า ในสิ่งที่เกิดขึ้น เรารับรู้อะไร…
-
พ่อแม่ยุคใหม่ จะรับมืออย่างไรเมื่อลูกอยากเป็น YouTuber
-ในตอนที่เรายังเด็ก ย้อนกลับไปซักสามสี่สิบผมเป็นหนึ่งคนที่ทำงานด้านข่าวสาร การตลาด และเทคโนโลยี เลยทำให้ได้มีโอกาสอัพเดทอะไรใหม่ๆ อยู่เป็นประจำ ก็เลยอยากจะเอามาเล่าสู่กันฟังว่าพ่อแม่อย่างเราควรจะรับมือยังไงกับการเลี้ยงลูกยุคใหม่แบบทุกวันนี้!ปีที่แล้ว เมื่อเราถูกถามว่า “โตขึ้นอยากเป็นอะไร” เชื่อว่าคำตอบส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้น หมอ ตำรวจ ทหาร พยาบาล คุณครู นักร้อง ดารา อะไรเทือกๆนี้ พอจำได้ใช่มั้ยครับ แต่เด็กยุคนี้ส่วนใหญ่เค้าบอกว่า…
-
เปลี่ยน “เป้าหมายใหญ่” เป็น “ภารกิจชิ้นเล็ก”
-เปลี่ยน “เป้าหมายใหญ่” เป็น “ภารกิจชิ้นเล็ก” หลายๆครั้ง คุณพ่อคุณแม่ก็อาจจะมี “เป้าหมาย” ที่เราอยากให้น้องๆเป็น เช่น อยากให้เป็นคนเรียบร้อย อยากให้มีความรับผิดชอบ อยากให้เรียนเก่ง ซึ่งการเป็น “คนเรียบร้อย” “คนที่มีความรับผิดชอบ” “คนที่เรียนเก่ง” อาจเป็นสิ่งที่ทำตามได้ยากและวัดได้ไม่ง่าย หลายๆครั้ง การให้คำแนะนำแบบ “บอกเป็นพฤติกรรมย่อย” ค่อยๆสะสมไป ก็จะทำให้เข้าใกล้จุดหมายได้ง่ายขึ้น เช่น “อยากให้ลูกตัวให้เรียบร้อย”…
-
อีกหนึ่งวิธีการที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะจะช่วยให้ลูกค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้น
-อีกหนึ่งวิธีการที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะจะช่วยให้ลูกค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้น การทำแบบทดสอบด้านบุคลิกภาพ (Personality Test) เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยลดเวลาการลองผิดลองถูกให้กับลูกๆ ของคุณแม่ บางแบบทดสอบจะสามารถบ่งบอกลักษณะนิสัยได้ค่อนข้างชัดเจนเลยว่า น้องเหมาะหรือไม่เหมาะกับสิ่งไหน เพราะอะไร จะวิเคราะห์ออกมาว่าอาชีพหรืองานลักษณะไหนที่เหมาะกับน้องบ้าง เสมือนแผนที่ให้เขาได้เดินต่อ ระหว่างการทำแบบทดสอบนั้น น้องจะได้ทบทวนว่าในสถานการณ์ต่างๆ น้องจะคิด จะรู้สึก หรือจะปฏิบัติยังไง เพื่อหาความเชื่อมโยงกันระหว่างคำตอบ กับ รูปแบบพฤติกรรมหรือความคิดของคนที่ทำแบบทดสอบนั้น…
-
การที่รู้ว่าลูกชอบอะไร เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่า คือการรู้จักวิธีค้นหาความชอบที่แท้จริง
-การที่รู้ว่าลูกชอบอะไร เป็นเรื่องที่ดี แต่จะดีกว่า คือการรู้จักวิธีค้นหาความชอบที่แท้จริง ในวันที่ลูกตอบได้ว่าชอบอะไร อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายที่ตายตัว เพราะความชอบนั้นเปลี่ยนแปลงและเติบโตไปพร้อมกับลูกของเรา เมื่อเขาไปในพื้นที่ใหม่ๆ เขาก็นำสิ่งใหม่มาเทียบเคียงกับประสบการณ์เดิมที่มี และถ้าสิ่งใหม่น่าสนใจหรือชอบมากกว่า เขาก็จะค่อยๆขยับไปสู่ความชอบใหม่ สิ่งที่สำคัญกว่าคือ “กระบวนการที่จะไตร่ตรองและตัดสินใจในเวลานั้นๆ” ต่างหากล่ะครับ กระบวนการสำคัญนั้น คือการกระตุ้นด้วย “คำถาม” เพราะถือเป็นการให้พื้นที่ลูกได้มีโอกาสได้พูดในสิ่งที่ตัวเองรู้สึก และต้องการจริงๆ ด้วยการใช้คำถามที่หลากหลาย…
-
พ่อแม่แค่รู้จักใช้ “คำถาม” ก็ช่วยให้ลูกค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้นแล้ว
-พ่อแม่แค่รู้จักใช้ “คำถาม” ก็ช่วยให้ลูกค้นหาตัวเองได้เร็วขึ้นแล้ว คุณพ่อคุณแม่ที่สามารถสร้างทักษะให้ลูกเป็นคน ‘ช่างคิด’ ได้ พอน้องเติบโตขึ้น เจอสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป เจอโจทย์ที่ต่างไปก็สามารถที่จะใช้ “ระบบความคิด” ที่ฝึกฝนมาแล้วจัดการกับปัญหาและค้นหาคำตอบให้ตรงกับความตรงการที่แท้จริงของตัวเองได้ดี ทีนี้คุณพ่อคุณแม่จะสอนให้ลูกๆ เริ่มรู้จักคิดได้อย่างไรนั้นผมขอแบ่งปันวิธีที่ผมเคยใช้กับเด็กๆ แล้วได้ผลดีเลยทีเดียว ซึ่งก็คือ “การใช้คำถามเพื่อสอนคิด” การตั้งคำถามชวนคิด ปกติผมจะใช้กับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไป…
-
ถ้าลูกยังเจอประสบการณ์ไม่มากพอ อย่าเพิ่งบอกว่า นั่นคือสิ่งที่ใช่สำหรับลูก
-Know Are มีโอกาสที่ได้ร่วมกิจกรรมกับน้องๆ และได้ให้คำปรึกษากับคุณพ่อคุณแม่บ่อยๆ คำถามนึงที่ได้รับจากคุณพ่อคุณแม่อยู่เรื่อยๆ คือ “ทำยังไงดี ลูกไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร” “อยากให้ลูกได้เจอว่าเขาชอบอะไร จะได้สนับสนุนถูก” อันดับแรกผมรู้สึกชื่นชมคุณพ่อคุณแม่ที่ถามคำถามแบบนี้มากๆเลยนะครับ เพราะสะท้อนให้เห็นว่าคุณพ่อคุณแม่อยากสนับสนุนลูกในแบบที่ลูกเป็น ไม่ใช่อยากให้ลูกเป็นในสิ่งที่อยากให้เป็น หรือหวังให้ลูกทำในสิ่งที่เราคิดว่าดีเรามองเขาเป็นที่ตั้ง ———————- ผมขอตอบเป็น 3 ประเด็น ซึ่งผมจะอธิบายให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจและนำไปปรับใช้กันทีละประเด็นนะครับ ประเด็นแรก…
-
ลูกของคุณ ไม่ใช่ลูกของคุณ
-” ลูกของคุณ ไม่ใช่ของคุณ ” งานเขียนของคาลิล ยิบราน ซึ่งถือเป็นข้อคิดดีๆ ที่ได้รับตั้งแต่เปิดหน้าแรกๆเลย หนังสือเล่มนี้เป็นงานเขียนแบบจิตวิทยาการศึกษา รวมถึงพัฒนาการเด็กและวัยรุ่น ซึ่งผมมองว่าเหมาะมากๆ สำหรับคนเป็นพ่อแม่ หนังสือเล่มนี้จะช่วยชี้ว่าเราพลาดอะไรตรงไหนไปเมื่อไหร่ อย่างน้อยๆ ก็ทำให้ได้เข้าใจว่าการจะเลี้ยงดูมนุษย์คนหนึ่งให้มีชีวิตในแบบที่เขาเป็น บนพื้นฐานความเข้าใจ, ความรัก, ความเมตตา ผลมันเป็นอย่างไร สำหรับผมเอง…
บทความสอนลูก
Know-Are > บทความสอนลูก